Skip to content- กัดผ้าก๊อซแน่นๆ 1-2 ชั่วโมง ระหว่างกัดให้กลืนเลือดและน้ำลาย ห้ามบ้วนออกเด็ดขาด มิฉะนั้นเลือดอาจจะไหลไม่หยุดได้ หลีกเลี่ยงการพูดหรือการขยับไปมาของปากเนื่องจากจะทำให้ผ้าก๊อซที่กัดไว้หลุด
- หลัง 1-2 ชั่วโมงให้เอาผ้าก๊อซออกได้ อาจจะยังมีเลือดไหลซึมๆจากแผลผ่าตัดได้อีก 1-2 วันถือว่าเป็นเรื่องปกติของแผลผ่าตัด เลือดไหลซึมๆที่ออกมาไม่จำเป็นต้องกัดผ้าก๊อซต่อแล้ว แต่ในวันแรกยังไม่แนะนำให้บ้วนปากบ่อยๆ เนื่องจากลิ่มเลือดในแผลผ่าตัดจะหลุดออกมา และทำให้เลือดไหลออกมากได้
- ประคบน้ำแข็งข้างที่ผ่าตัดในช่วง 2 วันแรก อย่างน้อยชั่วโมงละ 15-20 นาที การประคบจะช่วยให้อาการบวมหลังการผ่าตัดน้อยลง ยิ่งประคบบ่อยจะยิ่งบวมน้อย (ประคบน้ำแข็ง ห้ามอมน้ำแข็ง)
- หลังเอาผ้าก๊อซออกให้ทานยาแก้ปวดชนิด brufen 1 เม็ดทันที หลังจากนั้นให้ทานยาแก้ปวดทุก 6 ชั่วโมง ปฎิบัติ เช่นนี้ไปจนสิ้นสุดวันที่ 2 หลังการผ่าตัด ขณะทานยาแก้ปวดไม่ควรท้องว่าง ควรรับประทานอาหารอ่อนๆรองท้องก่อนทานยาแก้ปวด หลังทานยาถ้ายังไม่หายปวด สามารถทานยาแก้ปวด paracetamol 500 mg เสริมได้
- วันที่ 3 หลังการผ่าตัดถ้าไม่มีอาการปวดให้หยุดทานยาแก้ปวดได้ หรือให้ทานเฉพาะเวลามีอาการปวด ยาแก้ปวดไม่จำเป็นต้องทานจนหมด
- ทานยาฆ่าเชื้อตามแพทย์สั่งจนหมด ถ้ามีอาการแพ้ยา (ผื่นขึ้น คันตามตัว หายใจติดขัด แน่นหน้าอก ปวดท้อง ความดันตำ หน้ามืด เป็นลม หมดสติ) ให้รีบติดต่อแพทย์
- ให้เคี้ยวอาหารข้างที่ไม่ได้ทำการผ่าตัดประมาณ 1-2 อาทิตย์ สามารถทานอาหารได้ทุกชนิดขอให้เป็นอาหารที่สุก สะอาด ถ้าอาหารชิ้นใหญ่เคี้ยวแล้วเจ็บให้กินเป็นอาหารชิ้นเล็กลงหรืออาหารอ่อน
- อาการชาจากการฉีดยาชาจะอยู่อีกประมาณ 1-3 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด ให้ระมัดระวังการกัดปากตัวเองจนเกิดแผล
- ถ้ามีอาการเจ็บหรือแสบบริเวณมุมปากให้ใช้ vasaline หรือ ลิปมัน ทาบริเวณมุมปากบ่อยๆ
- แปรงที่ฟันได้ตามปกติ อย่าแปรงถูกบริเวณเหงือกที่มีไหมเย็บ
- สามารถใช้น้ำยาบ้วนปากชนิด Chlorhexidine หรือ น้ำอุ่นผสมเกลือได้
- อาการบวมจะมากที่สุดวันที่ 2-3 หลังการผ่าตัด จากนั้นจะค่อยๆยุบลง
- รอยช้ำเขียวบริเวณคางหรือคอ สามารถเกิดขึ้นได้และจะหายภายใน 2 อาทิตย์
- แผลผ่าฟันคุดหรือถอนฟันอาจจะเป็นโพรงอยู่ประมาณ 1 เดือน รูจะค่อยๆตื้นขึ้นจนปิดสนิทในเวลาประมาณ 1 เดือน
- นัดตัดไหม หรือดูแผล ตามที่แพทย์นัด